การพัฒนาสินค้าและบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
เป้าหมาย
ผลการดำเนินงานปี 2567
ความมุ่งมั่น ความท้าทาย และโอกาส

บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาสินค้าและบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวัฏจักรชีวิตสินค้า ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การขนส่ง ไปจนถึงการจัดการหลังการใช้งาน
ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดปริมาณขยะ และส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม การเดินหน้าสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยังเผชิญความท้าทายหลายประการ อาทิ ความซับซ้อนในการจัดหาวัตถุดิบที่ได้มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมในปริมาณที่เพียงพอ ต้นทุนการผลิตที่อาจสูงขึ้นจากการใช้วัสดุทางเลือกหรือเทคโนโลยีสะอาด ความต้องการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตและห่วงโซ่อุปทานให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล รวมถึงความจำเป็นในการสร้างความเข้าใจและความร่วมมือกับคู่ค้า พนักงาน และผู้บริโภค เพื่อให้เกิดการยอมรับและมีส่วนร่วมในเป้าหมายด้านความยั่งยืน
ในอีกมุมหนึ่ง ความมุ่งมั่นด้านนี้ยังเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความแตกต่างและความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยการนำเสนอนวัตกรรมสินค้าและบรรจุภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้บริโภคยุคใหม่ซึ่งให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม นอกจากนี้ การดำเนินการอย่างโปร่งใสและเป็นรูปธรรมยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์บรรษัทภิบาลที่ดี เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้น นักลงทุน และหน่วยงานกำกับดูแล ตลอดจนช่วยขยายโอกาสทางการตลาดในกลุ่มลูกค้าที่มีความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมทั้งในประเทศและต่างประเทศ
แนวทางการจัดการและแนวปฏิบัติ
บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นขยายสัดส่วนสินค้าและบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในพอร์ตโฟลิโอของบริษัท โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์และออกแบบเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้าน
ใช้วัตถุดิบธรรมชาติและสามารถย่อยสลายได้ตามหลักความยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ

การขยายสัดส่วนการพัฒนาสินค้าใหม่และบรรจุภัณฑ์ที่เป็น ECO PRODUCT เพื่อความชัดเจน บริษัทฯ จัดประเภท ECO Product ออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ดังนี้

กลุ่ม Recycled (วัสดุรีไซเคิล)

กลุ่ม Energy Saving (ประหยัดพลังงาน)

กลุ่ม Biodegradable & Kitchen Product

กลุ่ม Eco-Friendly Product
เป็นกลุ่มสินค้าที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยนำวัสดุเหลือใช้จากกระบวนการผลิต หรือวัสดุใช้แล้วจากการบริโภค มาผ่านกระบวนการแปรรูปให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อลดปริมาณขยะและลดการใช้ทรัพยากรใหม่ สินค้าในกลุ่มนี้จึงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

คุณลักษณะเด่น
- ใช้เส้นใยรีไซเคิลจากขวดพลาสติก PET หรือวัสดุสิ่งทอใช้แล้ว เพื่อนำมาผลิตเป็นหมอนอิง เบาะรองนั่ง
- นำเศษไม้และเศษกระดาษที่เหลือจากการผลิตเฟอร์นิเจอร์มาผ่านกระบวนการขึ้นรูปใหม่
- ช่วยลดการฝังกลบและเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้
ตัวอย่างสินค้า
หมอนอิง, เบาะรองนั่ง, ของตกแต่งบ้านในกลุ่ม Living




เป็นกลุ่มสินค้าที่ออกแบบโดยคำนึงถึงการลดการใช้พลังงานในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ทั้งในด้านการรักษาอุณหภูมิ ความสบาย และการใช้วัสดุที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในบ้านและที่พักอาศัย

คุณลักษณะเด่น
- ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน และชุดเครื่องนอนที่มีคุณสมบัติในการเก็บความเย็น/ความร้อนได้ดี ลดการใช้เครื่องปรับอากาศหรือฮีตเตอร์
- ม่านกันแสงและกันความร้อน ช่วยลดการซึมผ่านของแสงแดดและรังสี UV ทำให้ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในระบบปรับอากาศ
-
ที่นอนและหมอนนวัตกรรม เช่น
- Penthouse Suite ที่นอนเพื่อความเย็นสบายและประหยัดพลังงาน เป็นที่นอนในกลุ่ม Hotel Series ภายใต้แบรนด์ Theraflex ใช้นวัตกรรมผ้าหุ้มพิเศษช่วยคงอุณหภูมิให้เย็นสบาย ลดความร้อนสะสม และเพิ่มความผ่อนคลายขณะนอนหลับ ส่งผลให้ลดการใช้เครื่องปรับอากาศ ประหยัดพลังงานได้ราว 10% พร้อมช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสัดส่วนใกล้เคียงกัน
- Tencel ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติที่ช่วยลดการเก็บความร้อนและเพิ่มความนุ่มสบาย
- Sorona ผลิตจากพืชธรรมชาติที่ให้ความยืดหยุ่นและระบายอากาศได้ดี
- ใช้โฟม Bio-Based Memory Foam จากพืชเพื่อลดการใช้ปิโตรเลียม
ตัวอย่างสินค้า
Penthouse Suite, EcoDream Series ในซีรีส์ INNOVATION ภายใต้แบรนด์ Theraflex , ผ้าม่านประหยัดพลังงาน, ชุดเครื่องนอนลดการใช้พลังงาน




1. ผลิตภัณฑ์ย่อยสลายได้ (Biodegradable Product)
สินค้าที่ผลิตจากวัสดุผสมเปลือกหอยทะเล 20% ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งานทั้งในและนอกบ้าน และสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติหลังสิ้นอายุการใช้งาน เหมาะสำหรับภาชนะเก็บของ ตะกร้า และลิ้นชักจัดระเบียบภายในบ้าน

2. กลุ่มเครื่องใช้ในครัวจากวัสดุธรรมชาติ
ใช้วัสดุจากข้าวจ้าวสารและไม้ เช่น กล่องใส่อาหาร ภาชนะ และอุปกรณ์ในครัว ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เกิดจากการนำเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาเพิ่มมูลค่า แทนการทิ้งหรือทำลาย ลดปริมาณขยะและช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยนำไปผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ปราศจากสารเคมีอันตราย สะอาด ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และสามารถย่อยสลายได้ในระยะเวลา 6-12 เดือน

คุณลักษณะเด่น
- แข็งแรงทนทาน
- ปลอดภัยต่อผู้ใช้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
- ลดการใช้ทรัพยากรจากฟอสซิลและช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ตัวอย่างสินค้า
กล่องใส่อาหารจากเยื่อพืช, ภาชนะจากแป้งพืช, กระถางปลูกย่อยสลายได้




กลุ่มสินค้าที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ โดยมุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมทั้งกระบวนการผลิตและการใช้วัสดุที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันบริษัทมีผลิตภัณฑ์รวม 170 SKU อาทิ เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ไม่ผ่านกระบวนการเคมี และใช้ไม้จากป่าปลูกซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานสิ่งแวดล้อม
ตัวอย่างเช่น Ecofriendly–WASABI Series และ Ecofriendly–BRAZIL Series ที่ใช้ไม้ยางพาราจากป่าปลูกในประเทศ เป็นการเลือกใช้ทรัพยากรหมุนเวียนเพื่อลดการตัดไม้จากป่าธรรมชาติ ลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ และส่งเสริมการอนุรักษ์ป่าไม้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของบริษัท ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

1. Ecofriendly–OKINAWA Series
เฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องนอนและห้องรับแขก รุ่นโอกินาว่า โดดเด่นด้วยสไตล์เจแปนดี้ (Japandi Style) ที่ผสานความเรียบง่ายและความอบอุ่น เลือกใช้ไม้ยางพาราผสมวีเนียร์เนื้อแอชคุณภาพสูง ซึ่งเป็นวัสดุหมุนเวียนที่ช่วยลดการพึ่งพาไม้จากป่าธรรมชาติ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม




2. Ecofriendly–Seoul Series
เฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องนอนและห้องรับแขก มาพร้อมหน้าบาน MDF พ่นสี และโครงสร้างด้านข้าง–ด้านบน–ด้านหลัง ผลิตจากพาร์ติเคิลบอร์ดเคลือบเมลามีน เกรด E0 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลที่ช่วยลดการปล่อยสารฟอร์มาลดีไฮด์ลงสู่สิ่งแวดล้อม โดยมีค่าการปล่อยเพียง 0.5 มก./ลบ.ม. ต่ำกว่าค่ามาตรฐานสากลทั่วไปที่อยู่ที่ 0.9 มก./ลบ.ม. จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อสุขภาพผู้ใช้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
หมายเหตุ: มาตรฐาน E0 เป็นเกณฑ์ควบคุมการปล่อยสารฟอร์มาลดีไฮด์จากวัสดุไม้แปรรูป เช่น MDF ไม้อัด และพาร์ติเคิลบอร์ด ให้อยู่ในระดับต่ำ ปลอดภัยต่อสุขภาพ




3. ชุดโต๊ะทำงานรุ่น WASABI – รุ่น RYO และ RYUU
ออกแบบด้วยวัสดุธรรมชาติจากไม้ยางพาราแท้ ผ่านการผสมผสานงานฝีมืออย่างประณีต เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน และสามารถเข้ากับสไตล์การตกแต่งได้หลากหลาย ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
รุ่น RYO
ดีไซน์มุมโค้งมนเพื่อความปลอดภัย พร้อมถาดวางของแบบเคลื่อนย้ายได้ รองรับน้ำหนักสูงสุด 40 กก.

รุ่น RYUU
มาพร้อมตู้เก็บของในตัว ออกแบบให้ใช้พื้นที่อย่างชาญฉลาด รองรับน้ำหนักสูงสุด 50 กก.

ทั้งสองรุ่นเป็นส่วนหนึ่งของ TEAM Series ซึ่งใช้ไม้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน FSC (Forest Stewardship Council) จากป่าที่มีการจัดการอย่างยั่งยืน ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สนับสนุนความรับผิดชอบต่อสังคม และเศรษฐกิจตามมาตรฐานสากล ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่เพียงมีคุณภาพ แต่ยังมีส่วนช่วยรักษ์โลกอย่างแท้จริง
หมายเหตุ: FSC (Forest Stewardship Council) องค์กรสากลที่กำหนดมาตรฐานการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน รับรองว่าไม้และผลิตภัณฑ์ไม้มาจากแหล่งที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ




4. สินค้าในกลุ่มตู้เหล็ก Ecofriendly–STELLA Series
ตู้เหล็ก Ecofriendly–STELLA Series ผลิตด้วยกระบวนการพ่นสีแบบ Powder Coating ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยต่อสุขภาพของพนักงานเพราะไม่ปล่อยสารระเหยหรือสารอันตรายที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกาย พร้อมทั้งให้คุณภาพผิวเคลือบที่ทนทานและสวยงาม
กระบวนการผลิตดำเนินภายในโรงงานที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 14001 ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ซึ่งกำหนดแนวทางการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการลดของเสียและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ ทำให้สินค้าในซีรีส์นี้ไม่เพียงตอบโจทย์ด้านความแข็งแรงและการใช้งาน แต่ยังสอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนของบริษัทอย่างชัดเจน




5. สินค้าตกแต่งบ้าน (Home Decorative Items: HDI)
บริษัทได้ขยายตลาดสินค้าตกแต่งบ้านที่เน้นใช้วัสดุจากธรรมชาติมากขึ้น เช่น ไม้ไผ่ กระดาษ เชือก ผักตบชวา และวัสดุจากเปลือกหอยทะเล รวมถึงการนำวัสดุเหลือใช้จากการผลิต เช่น คอตตอนเก่า มารีไซเคิลเป็นเส้นใยหมอนเพื่อลดการใช้ทรัพยากรใหม่ โดยปัจจุบัน สินค้าในกลุ่ม Eco Product คิดเป็น 16% ของจำนวนสินค้าทั้งหมด และสร้างยอดขายคิดเป็น 25% หรือราว 70 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังพัฒนาบรรจุภัณฑ์ (Packaging) ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้กระดาษหรือวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ลดการใช้พลาสติกและสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ ซึ่งสัดส่วนบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการปรับเปลี่ยนนี้ครอบคลุมถึง 70% ของสินค้าที่จำหน่ายภายใต้ House Brand
สินค้าตกแต่งบ้านภายใต้แนวคิด Eco Friendly ของบริษัทผลิตจากวัสดุธรรมชาติและวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ ครอบคลุมหลากหลายประเภทสินค้า เพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านความสวยงาม การใช้งาน และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ดังตัวอย่าง เช่น
กลุ่มสินค้าประหยัดพลังงาน (Energy Saving)
บริษัทพัฒนาสินค้าเพื่อช่วยลดการใช้พลังงานและส่งเสริมการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการลดการใช้ไฟฟ้าและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ผ่านการออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษ ดังนี้
1. ผ้าม่านกันแสงและกันความร้อน
สามารถป้องกันและลดการสะท้อนแสงจากภายนอกได้มากกว่า 50%
- ลดความร้อนที่เข้าสู่ภายในอาคาร ช่วยให้ใช้เครื่องปรับอากาศน้อยลง
- ป้องกันรังสี UV ที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังและเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน
- ใช้เส้นใยซิลิโคนที่ป้องกันการยึดเกาะของฝุ่น ทำให้ดูแลรักษาง่ายและยืดอายุการใช้งาน




2. กลุ่มเครื่องนอน
ออกแบบเพื่อลดการใช้เครื่องปรับอากาศ โดยใช้วัสดุและเทคโนโลยีที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิ เช่น หมอนเย็นและผ้าห่มเย็น
- รักษาอุณหภูมิให้อยู่ในช่วงเย็นสบาย 2–5 องศาเซลเซียสจากอุณหภูมิห้อง
- ส่งผลให้สามารถปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศสูงขึ้น 1–2 องศา ลดการใช้ไฟฟ้าได้ประมาณ 10% และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
สินค้ากลุ่มนี้ไม่เพียงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน แต่ยังเพิ่มความสะดวกสบาย และตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในระยะยาว




3. กลุ่ม Garden
ผลิตภัณฑ์ที่เน้นความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น กระถางต้นไม้จากวัสดุย่อยสลายได้ ปุ๋ยหรือปุ๋ยน้ำที่ผลิตจากสารอินทรีย์ปลอดสารเคมี เหมาะสำหรับการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกอาคาร ลดการใช้วัสดุสังเคราะห์และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม




4. กลุ่ม Living
ใช้เส้นใยรีไซเคิล (Recycled Yarn) ผลิตเป็นไส้หมอนอิงและเบาะรองนั่ง (Cushion และ Seat Pad) รวมถึงการใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ไผ่ เส้นใยจากปอ และกระดาษรีไซเคิล สำหรับผลิตภัณฑ์ตกแต่งห้องและพรม เพิ่มความสวยงามและความสบาย ขณะเดียวกันยังช่วยลดปริมาณขยะสิ่งทอและพลาสติก




5. กลุ่ม Home Solution และ DIY
- ผลิตภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติที่ย่อยสลายได้ง่าย เช่น ไม้ไผ่ ผักตบชวา หญ้าทะเล (Seagrass) ต้นหลิว (Willow) หวาย (Rattan) และเชือกกระดาษ (Paper rope) เพื่อนำมาทำชั้นวางของ เก้าอี้ จักรเก็บของ และตะกร้าต่าง ๆ
- วัสดุเหล่านี้ใช้พลังงานน้อยกว่าการผลิตจากพลาสติกและโลหะ ทำให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม




คุณลักษณะเด่น
1. วัสดุธรรมชาติและมาตรฐานสิ่งแวดล้อม
- ใช้วัสดุจากธรรมชาติและวัสดุหมุนเวียน เช่น ไม้ยางพาราจากป่าปลูก, ไม้ไผ่, ผักตบชวา, หญ้าทะเล, หวาย, เส้นใยปอ, เชือกกระดาษ
- ได้รับการรับรองมาตรฐานสิ่งแวดล้อม เช่น FSC (การจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน) และ ISO 14001 (การจัดการสิ่งแวดล้อม)
- ลดการใช้ไม้จากป่าธรรมชาติ และลดการใช้พลาสติกหรือสารเคมีที่เป็นอันตราย
2. ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
- ใช้วัสดุเกรด E0 หรือเทียบเท่า เพื่อลดการปล่อยสารฟอร์มาลดีไฮด์ให้อยู่ในระดับต่ำ ปลอดภัยต่อสุขภาพ
- กระบวนการผลิต เช่น Powder Coating ปลอดสารระเหยอันตรายต่อร่างกาย
3. การออกแบบและฟังก์ชัน
- ดีไซน์หลากหลาย เช่น Japandi Style (ผสมผสานความเรียบง่ายและอบอุ่น)
- ใช้พื้นที่คุ้มค่า เช่น โต๊ะทำงานรุ่น RYO และ RYUU ที่มีฟังก์ชันเก็บของ รองรับน้ำหนักมาก
- แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน
4. ประหยัดพลังงานและลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์
- ผ้าม่านกันแสง/กันความร้อน ลดการใช้เครื่องปรับอากาศ ป้องกันรังสี UV
- เครื่องนอนประหยัดพลังงาน รักษาอุณหภูมิให้เย็นสบาย ลดการใช้ไฟฟ้า
- ส่งเสริมการอยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
5. การขยายกลุ่มสินค้าและความหลากหลาย
- ปัจจุบันมีสินค้ากว่า 170 SKU ครอบคลุมเฟอร์นิเจอร์, ของตกแต่งบ้าน, ผลิตภัณฑ์สวน และสินค้าประหยัดพลังงาน
- สัดส่วนสินค้ากลุ่ม Eco Product คิดเป็น 16% ของจำนวนสินค้าทั้งหมด และสร้างยอดขาย 25% (ประมาณ 70 ล้านบาท)
- สัดส่วนบรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมครอบคลุม 70% ของสินค้าภายใต้ House Brand




ตัวอย่างสินค้าในกลุ่ม ECO PRODUCT
วัสดุธรรมชาติและมาตรฐานสิ่งแวดล้อม
ใช้วัสดุจากป่าปลูกและวัสดุหมุนเวียน ลดการตัดไม้ป่าธรรมชาติ ได้รับการรับรอง FSC, ISO 14001
ตัวอย่างแบรนด์/รุ่นสินค้า
Ecofriendly–WASABI Series, Ecofriendly–BRAZIL Series, Ecofriendly–OKINAWA Series
ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
ใช้วัสดุเกรด E0 ลดการปล่อยฟอร์มาลดีไฮด์, กระบวนการ Powder Coating ปลอดสารระเหยอันตราย
ตัวอย่างแบรนด์/รุ่นสินค้า
Ecofriendly–Seoul Series, Ecofriendly–STELLA Series
การออกแบบและฟังก์ชัน
ดีไซน์หลากหลาย เช่น Japandi Style, ฟังก์ชันเก็บของ, รองรับน้ำหนักมาก, ใช้งานได้ทนทาน
ตัวอย่างแบรนด์/รุ่นสินค้า
โต๊ะทำงาน WASABI – รุ่น RYO (มุมโค้งมน, ถาดวางของเคลื่อนย้ายได้), รุ่น RYUU (มีตู้เก็บของในตัว)
ประหยัดพลังงานและลดคาร์บอน
ลดการใช้ไฟฟ้าและปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น ผ้าม่านกันร้อน, เครื่องนอนควบคุมอุณหภูมิ
ตัวอย่างแบรนด์/รุ่นสินค้า
Energy Saving Curtains, Cooling Pillow & Blanket
สินค้าสวนและตกแต่งบ้าน Eco-Friendly
ใช้วัสดุย่อยสลายได้และวัสดุอินทรีย์ปลอดสารเคมี
ตัวอย่างแบรนด์/รุ่นสินค้า
Garden Series (กระถางย่อยสลาย, ปุ๋ยอินทรีย์)
ใช้วัสดุรีไซเคิล/ลดขยะ
ใช้เส้นใยรีไซเคิลและวัสดุธรรมชาติในสินค้าตกแต่งบ้านและพรม
ตัวอย่างแบรนด์/รุ่นสินค้า
Living Series (Cushion, Seat Pad จากเส้นใยรีไซเคิล)
วัสดุทดแทนพลาสติกและโลหะ
ใช้วัสดุธรรมชาติย่อยสลายเร็ว ลดพลังงานผลิต
ตัวอย่างแบรนด์/รุ่นสินค้า
Home Solution & DIY (เฟอร์นิเจอร์และของใช้จากไม้ไผ่, ผักตบชวา, หญ้าทะเล, หวาย, เชือกกระดาษ)
การออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Eco Product แล้ว บริษัทให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเน้นการใช้วัสดุทดแทนที่ผลิตจากทรัพยากรหมุนเวียนและวัสดุธรรมชาติ เพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบ การเลือกใช้วัสดุ ไปจนถึงกระบวนการผลิต
สำหรับบรรจุภัณฑ์หมอน บริษัทได้ปรับใช้เทคนิคการบรรจุแบบ Compress Rolling ซึ่งช่วยลดขนาดบรรจุภัณฑ์ให้เล็กลงอย่างมาก ทำให้สะดวกต่อการขนส่งและจัดเก็บ พร้อมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ในกระบวนการจัดส่งสูงสุด ส่งผลให้สามารถขนส่งสินค้าได้มากขึ้นถึง 5 เท่าต่อรอบเมื่อเทียบกับบรรจุภัณฑ์แบบเดิม นอกจากนี้ยังช่วยลดการใช้พลังงานและทรัพยากรในกระบวนการขนส่ง และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาพรวม
การปรับใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเช่นนี้ ไม่เพียงช่วยยกระดับมาตรฐานด้านความยั่งยืนของบริษัท แต่ยังเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม




การพัฒนาเฟอร์นิเจอร์และระบบการผลิตแบบ Younique เพื่อการปรับแต่งเฉพาะบุคคล (Mass Customization) ที่สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย บริษัทได้พัฒนาแนวคิด Younique ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการออกแบบเฟอร์นิเจอร์แบบ Customize ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกขนาด สี ฟังก์ชัน และรูปแบบการใช้งานได้ตามความต้องการส่วนบุคคล โดยอาศัยการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าผ่านระบบดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบและการวางแผนผลิต
ทั้งนี้ บริษัทได้พัฒนาโมเดลการผลิตแบบ “Common Parts” หรือการใช้ชิ้นส่วนร่วมกันในหลายรุ่น เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในกระบวนการผลิต และลดปริมาณวัสดุเหลือทิ้ง ส่งผลให้สามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ปัจจุบันมีการนำแนวคิดนี้ไปใช้กับเฟอร์นิเจอร์ในกลุ่มห้องนอน (Bedroom), ห้องนั่งเล่น (Living Room) และห้องทำงาน เช่น โซฟาแบบ Personalized Fabric, เตียง Bed Studio, และชุดเฟอร์นิเจอร์ PS-Blanc / PS-Noris / PS-Join ที่เน้นการออกแบบเรียบง่าย รองรับพื้นที่จำกัด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต การจัดเก็บ และการบริหารสินค้าคงคลัง




อีกหนึ่งโครงการสำคัญในด้าน ESG คือ “Fold to Melamine” ซึ่งเป็นการปรับกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเมลามีนเพื่อให้สามารถแปรรูปได้โดยไม่ต้องใช้แม่พิมพ์แบบเดิม ลดของเสียจากการผลิตลงถึง 30% และยังสามารถนำกลับมาใช้ในกระบวนการผลิตใหม่ได้ (Recycle) ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตลดลง เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งคาดว่ายอดขายต่อเดือนจะโตขึ้น 5-10%
นอกจากนี้ยังมีการยกระดับระบบซัพพลายเชนโดยการเชื่อมโยงคู่ค้าผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วยเพิ่มความโปร่งใส และลดระยะเวลาการผลิตเฉลี่ยจาก 35 วัน เหลือเพียง 30 วัน ส่งผลให้การตอบสนองต่อความต้องการลูกค้าดีขึ้น และเพิ่มค่า Net Promoter Score (NPS) รวมถึงอัตราการกลับมาซื้อซ้ำ (Retention Rate)
บริษัทยังได้ผลักดัน “Supplier ESG Compliance Program” เพื่อยกระดับการจัดซื้อสีเขียว (Green Procurement) และส่งเสริมความร่วมมือกับซัพพลายเออร์ในการพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกัน




การดำเนินงานของบริษัทภายใต้แบรนด์ “Furinbox” มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพ ใช้งานได้จริง และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในวงกว้าง โดยเน้นสินค้าที่ “คุ้มค่าและเข้าถึงได้ง่าย” ด้วยการทำงานร่วมกับคู่ค้าทางธุรกิจ เพื่อร่วมกันออกแบบ พัฒนา และผลิตสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งด้านฟังก์ชัน ดีไซน์ และต้นทุนการผลิต
การพัฒนาร่วมกับคู่ค้าไม่เพียงช่วยให้สามารถส่งมอบสินค้าได้รวดเร็วขึ้น แต่ยังสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าทั้งด้านราคา ประโยชน์ใช้สอย และคุณภาพที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ Furinbox
- ราคาย่อมเยา คัดสรรวัสดุที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม พร้อมวางแผนต้นทุนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ จึงสามารถนำเสนอเฟอร์นิเจอร์ที่ราคาประหยัด คุ้มค่า เหมาะกับทุกกลุ่มลูกค้า
- ประกอบง่าย ร่วมพัฒนากับคู่ค้าเพื่อออกแบบระบบการประกอบที่ง่าย ลดความซับซ้อน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถประกอบเฟอร์นิเจอร์ได้เองโดยไม่จำเป็นต้องใช้ช่างหรืออุปกรณ์เสริมพิเศษ
- ดีไซน์มินิมอล เน้นความเรียบง่าย ทันสมัย สวยงาม และสามารถเข้ากับสไตล์ตกแต่งบ้านได้หลากหลาย เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์
- ประหยัดพื้นที่ เน้นการออกแบบที่เหมาะกับพื้นที่อยู่อาศัยในเมือง เช่น คอนโดหรือบ้านขนาดกะทัดรัด ช่วยเพิ่มการใช้สอยให้คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ




ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง
ลูกค้า
ผลประโยชน์ที่ได้รับ
- ได้รับสินค้าที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีอันตราย
- บรรจุภัณฑ์สามารถย่อยสลายหรือนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ลดขยะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- สอดคล้องกับวิถีชีวิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Eco-conscious lifestyle)
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- ราคาสินค้าอาจสูงขึ้นจากต้นทุนการใช้วัสดุและกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสิ่งแวดล้อม
- ความท้าทายในการดูแลรักษาสินค้าธรรมชาติให้มีอายุการใช้งานยาวนาน
พนักงาน
ผลประโยชน์ที่ได้รับ
- ได้พัฒนาทักษะและความรู้เกี่ยวกับการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ลดการสัมผัสสารเคมีอันตราย
- มีส่วนร่วมในการสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- ภาระในการปรับกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับมาตรฐานสิ่งแวดล้อม
- ต้องเรียนรู้เทคนิคและวัสดุใหม่ซึ่งอาจใช้เวลามากขึ้น
ผู้ถือหุ้น
ผลประโยชน์ที่ได้รับ
- เสริมภาพลักษณ์องค์กรด้านความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคม
- เพิ่มโอกาสทางการตลาดในกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม
- ลดความเสี่ยงต่อการถูกวิจารณ์ด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- ต้นทุนการลงทุนในเทคโนโลยีและวัสดุเพื่อสิ่งแวดล้อมสูงในระยะแรก
- ระยะเวลาคืนทุนอาจนานกว่าสินค้าทั่วไป
คู่ค้าทางธุรกิจ
ผลประโยชน์ที่ได้รับ
- ได้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ขยายตลาดได้กว้างขึ้น
- ได้มาตรฐานการผลิตและคุณภาพที่สูงขึ้น
- มีโอกาสสร้างพันธมิตรทางธุรกิจระยะยาว
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- ต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตหรือหาวัตถุดิบใหม่ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสิ่งแวดล้อม
- อาจมีต้นทุนจัดหาวัตถุดิบสูงขึ้น
ชุมชนและสังคม
ผลประโยชน์ที่ได้รับ
- ลดปริมาณขยะและมลพิษจากบรรจุภัณฑ์และวัสดุสังเคราะห์
- สนับสนุนการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนและการผลิตอย่างยั่งยืน
- เพิ่มความตระหนักเรื่องการใช้สินค้าอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- อาจมีข้อกังวลต่อประสิทธิภาพหรือความทนทานของสินค้าที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ
- ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับราคาสินค้าและเหตุผลที่สูงขึ้น
หน่วยงานภาครัฐและอื่นๆ
ผลประโยชน์ที่ได้รับ
- ได้รับความร่วมมือในการปฏิบัติตามนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและการจัดการขยะ
- ส่งเสริมภาพรวมเศรษฐกิจสีเขียวของประเทศ
- ได้ข้อมูลเพื่อติดตามและประเมินผลโครงการด้านสิ่งแวดล้อม
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- ภาระงานในการตรวจสอบและติดตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมของผู้ประกอบการ
- ต้องจัดทำหรือปรับปรุงข้อกำหนดให้สอดคล้องกับนวัตกรรมใหม่