สิทธิมนุษยชนและแนวปฏิบัติด้านแรงงาน สิทธิมนุษยชนและแนวปฏิบัติด้านแรงงาน

สิทธิมนุษยชนและแนวปฏิบัติด้านแรงงาน

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

เป้าหมาย

การละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็น 0
สัดส่วนผู้บริหารหญิงเพิ่มขึ้นจากปีฐาน 2566
จำนวนข้อร้องเรียนด้านข้อมูลส่วนบุคคลเป็น 0

ผลการดำเนินงานปี 2567

ไม่มีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลจากการดำเนินงานของบริษัท
0
สัดส่วนของผู้บริหารหญิงเท่ากับ
42.86%
(เพิ่มขึ้น 1.56% เทียบกับปี 2566)

ความมุ่งมั่น ความท้าทาย และโอกาส

บริษัทดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักบรรษัทภิบาลด้วยความยุติธรรมและยึดมั่นตามจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน มีความรับผิดชอบต่อสังคมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม บริษัทให้ความเคารพต่อคุณค่าและความเท่าเทียมกันในสิทธิและศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ (Human Dignity) การอยู่ร่วมกันด้วยการเคารพ บริษัทตระหนักถึงการเคารพสิทธิมนุษยชน (Human Rights) ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มที่อาจเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ รวมถึงพนักงาน คู่ค้า ลูกค้า ผู้บริโภค ชุมชนท้องถิ่น และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ที่อาจได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยบริษัทได้ยึดหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (United Nations Guiding Principles on Business and Human Rights: UNGP) มาเป็นแนวทางปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชน ด้วยหลักการสำคัญว่าด้วยการปกป้องสิทธิ (protect) การเคารพสิทธิ (respect) และการเยียวยา (remedy) และเพื่อป้องกันไม่ให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจจากการดำเนินงานของบริษัท


แนวทางการจัดการและแนวปฏิบัติ

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิมนุษยชนและแรงงานในฐานะรากฐานสำคัญของการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน

บริษัทเชื่อว่าการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเท่าเทียม และการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมต่อพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ เป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการสร้างคุณค่าในระยะยาว และเป็นแนวทางที่สะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม การยึดมั่นในหลักการดังกล่าวไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงด้านกฎหมายและชื่อเสียง แต่ยังสร้างความไว้วางใจและความร่วมมือที่มั่นคงระหว่างองค์กรกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

บริษัทมีนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและแนวปฏิบัติด้านแรงงานที่ชัดเจน โดยยึดตามหลักการชี้แนะสากลว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติ (United Nations Guiding Principles on Business and Human Rights: UNGP) และข้อกำหนดของกฎหมายแรงงานไทย รวมทั้งมาตรฐานแรงงานสากล (ILO Conventions) นโยบายดังกล่าวครอบคลุมทั้งการเคารพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน การปฏิบัติที่เป็นธรรมในการจ้างงาน การไม่เลือกปฏิบัติ การห้ามใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับ ตลอดจนการส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เหมาะสม

ในเชิงปฏิบัติ บริษัทได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานที่ครอบคลุมทั้งการปกป้อง (Protect) เคารพ (Respect) และการเยียวยา (Remedy) เพื่อป้องกันความเสี่ยงและจัดการกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้น โดยมีการตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทยังให้ความสำคัญกับการสื่อสารและการสร้างความตระหนักรู้แก่พนักงานและคู่ค้า ผ่านการอบรมและกิจกรรมรณรงค์ต่าง ๆ เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันและปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความเคารพต่อสิทธิมนุษยชน

ในด้านแรงงาน บริษัทมุ่งส่งเสริมความผูกพันและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน โดยมีมาตรการสนับสนุนการทำงานที่ยืดหยุ่น การพัฒนาทักษะและศักยภาพ การจัดสวัสดิการที่เหมาะสม และการเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ ILM ในการสร้างองค์กรที่ให้ความสำคัญกับบุคลากรในฐานะ “ทุนมนุษย์” ที่มีคุณค่าและเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ

นโยบายด้านสิทธิมนุษยชน

  1. คำนึงถึงศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์และให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิมนุษยชนของบุคคลทุกคน รวมถึงชุมชนท้องถิ่นต่าง ๆ ภายใต้กรอบของกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนรวมทั้งมาตรฐานแรงงานสากลอย่างเท่าเทียมกันโดยไม่เลือกปฏิบัติ
  2. ดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจที่สุจริตและไม่ส่งผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนหรือขัดต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนของประเทศที่ดำเนินธุรกิจ สนับสนุนและเคารพการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน รวมถึงป้องกันไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในทุกรูปแบบ
  3. ไม่ใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ การค้ามนุษย์ ต่อต้านพฤติกรรมการเลือกปฏิบัติ การล่วงละเมิดทุกรูปแบบ เคารพเสรีภาพในการสมาคม การรวมตัวของพนักงาน และความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
  4. มุ่งมั่นดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานในระดับสูง
  5. ปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างเท่าเทียมกันโดยไม่เลือกปฏิบัติและสื่อสาร เผยแพร่ ให้ความรู้แก่ผู้ค้า
  6. ประสานให้ผู้ค้าเคารพสิทธิมนุษยชนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของผู้ค้า เพื่อให้มั่นใจว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของผู้ค้าทุกกลุ่มจะได้รับการคุ้มครองในสิทธิเบื้องต้นอย่างเท่าเทียมกัน
  7. ส่งเสริมและสนับสนุนให้รายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้ทราบและมีขั้นตอนการดำเนินการอย่างชัดเจน โปร่งใส และเหมาะสมเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่บุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท
  8. ปกป้องและให้ความเป็นธรรมแก่ผู้แจ้งเบาะแสที่รายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทอย่างต่อเนื่อง
  9. บริษัทจะใช้หลักกระบวนการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างถี่ถ้วน (Human Rights Due Diligence) เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง
  10. ตรวจสอบและติดตามผลการจัดการและแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนตามกระบวนการตรวจสอบถี่ถ้วนด้านสิทธิมนุษยชน รวมถึงการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการติดตามผลที่เกิดจากการดำเนินการ
  11. เปิดเผยผลการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนของบริษัท

การตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนรอบด้าน

เพื่อระบุประเด็นและประเมินความเสี่ยงและผลกระทบด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่คุณค่าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ที่ได้รับผลกระทบ วางแผนและกำหนดแนวทางการป้องกัน การลดผลกระทบ การบริหารจัดการแก้ไขและเยียวยาผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นจริง บริษัทกำหนดแนวทางการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เห็นชอบจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และมีการดำเนินการด้านสิทธิมนุษยชนภายในโดยกำหนดว่าผู้ค้าและคู่สัญญาต้องปฏิบัติตามนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนของบริษัท เพื่อให้มั่นใจได้ว่าไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้น และมีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบที่อาจได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของคู่ค้าที่เหมาะสม

กรอบการดำเนินการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน
กรอบการดำเนินการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน กรอบการดำเนินการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน

ประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่สำคัญ

สุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน ผู้รับเหมา และคู่ค้า

แผนการดำเนินงานและมาตรการป้องกันและแก้ไข ผลการดำเนินงาน
  • กำหนดให้มีชี้บ่งอันตรายและประเมินความเสี่ยงอันตราย ตลอดจนกำหนดแผนลด และควบคุมความเสี่ยงอันตรายให้อยู่ในระดับเล็กน้อยหรือยอมรับได้
  • LTIFR ของพนักงาน = 5.375 คน ต่อหนึ่งล้านชั่วโมงการทำงาน
  • กำหนดแผนการตรวจสอบอุปกรณ์ความปลอดภัย เครื่องมือ/เครื่องจักรยานพาหนะ และติดตามให้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
  • LTIFR ของผู้รับเหมาและตู่ค้า = 0.193 คนต่อหนึ่งล้านชั่วโมงการทำงาน
  • กำหนดหลักสูตรและจัดอบรมด้านความปลอดภัยในการทำงานแบบเข้มข้นและแบบเฉพาะตำแหน่งตามลักษณะความเสี่ยงอันตราย
  • จำนวนอุบัติเหตุจากการทำงานของพนักงานทั้งหมดลดลง 23.83% และจำนวนวันหยุดงานลดลง 42.16% เทียบกับปี 2566 และไม่มีผู้เสียชีวิต
  • กำหนดแผนและดำเนินการการตรวจประเมินและติดตามความปลอดภัย (QSHE Audit) ปีละ 1 ครั้ง
  • จำนวนข้อร้องเรียนด้านสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน ผู้รับเหมาและคู่ค้า = 0

การรั่วไหลของข้อมูลและการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้งานผิดวัตถุประสงค์ที่ให้ความยินยอม

แผนการดำเนินงานและมาตรการป้องกันและแก้ไข ผลการดำเนินงาน
  • ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับอย่างเคร่งครัดและพัฒนาแนวทางปฏิบัติ
  • จำนวนข้อร้องเรียนด้านข้อมูลส่วนบุคคล = 0
  • จัดทำบันทึกกิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Record of Processing Activities : RoPA)
  • ทบทวนและปรับปรุงเครื่องมือป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลอย่างสม่ำเสมอและเพิ่มการตรวจจับถ่ายโอนข้อมูลไปยังปลายทางภายนอก
  • จัดอบรมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และ Cyber Security
  • จัดทำแผนรับมือและทดสอบแผนอย่างสม่ำเสมอ

หมายเหตุ: LTIFR หมายถึง อัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงานจากการทำงานของพนักงาน (Lost Time Injury Rate : LTIFR)

กลไลการแก้ไขและเยียวยากรณีเกิดการละเมิดด้านสิทธิมนุษยชน

บริษัทมีการบูรณาผลการประเมินความเสี่ยงที่ได้จากทุกกิจกรรมและทุกพื้นที่การดำเนินงาน มีการระบุความเสี่ยงและกำหนดแผนการลดโอกาสเกิดความเสี่ยงและผลกระทบ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต้องจัดทำแผนบรรเทาความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน และมีการกำกับดูแล ติดตาม ตรวจสอบการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดโอกาสเกิดความเสี่ยงและผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ กรณีเกิดความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนและมีผู้ได้รับผลกระทบ บริษัทจะมีการดำเนินการแก้ไขและเยียวยาตามแนวทางของบริษัท

แนวทางการเยียวยา

บริษัทมีแนวทางการเยียวยาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและกลุ่มเปราะบางกรณีเกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่องตลอดจนการสื่อสารผลลัพธ์จนสิ้นสุดกระบวนการและเข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งรวมถึงการขอโทษอย่างเป็นทางการ การชดใช้ค่าเสียหาย การตอบแทนแบบที่เป็นตัวเงินและไม่เป็นตัวเงิน ตลอดจนการช่วยเหลือในการเข้าถึงการเยียวยาด้านอื่น ๆ แก่ผู้ที่ถูกละเมิด

การขอโทษ

(โดยตรงกับผู้ได้รับผลกระทบอย่างเป็นทางการ)

การชดใช้ค่าเสียหาย

การให้เงินตอบแทน

การตอบแทนแบบไม่เป็นตัวเงิน

โอกาสในการเต็บโต, การยอมรับ, ผลประโยชน์อื่นๆ

ความช่วยเหลือในการเข้าถึงการเยียวยาด้านอื่นๆ

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ผู้ถือหุ้น
ผลประโยชน์ที่ได้รับ
  • ความเชื่อมั่นต่อการดำเนินธุรกิจที่มีบรรษัทภิบาล โปร่งใส และเคารพสิทธิมนุษยชน
  • ลดความเสี่ยงด้านกฎหมายและชื่อเสียงของบริษัท
  • สร้างคุณค่าและผลตอบแทนในระยะยาว
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
  • หากมีกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชน อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงองค์กรและความเชื่อมั่นของนักลงทุน
  • ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการแก้ไขหรือเยียวยา
ลูกค้า
ผลประโยชน์ที่ได้รับ
  • มั่นใจได้ว่าสินค้าและบริการของบริษัทผลิตและจำหน่ายอย่างมีจริยธรรม
  • ได้รับบริการที่ปลอดภัย ไม่เลือกปฏิบัติ
  • ประสบการณ์ลูกค้าที่ดีจากการบริการที่เคารพสิทธิ
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
  • หากเกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น การเลือกปฏิบัติ หรือการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล จะกระทบต่อความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้า
คู่ค้าทางธุรกิจ
ผลประโยชน์ที่ได้รับ
  • ได้รับการปฏิบัติที่เป็นธรรม โปร่งใส และอยู่บนพื้นฐานของสิทธิมนุษยชน
  • มีมาตรฐานแรงงานและแนวปฏิบัติที่ชัดเจนร่วมกัน
  • มีความร่วมมือที่ยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทาน
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
  • หากคู่ค้าไม่ปฏิบัติตามแนวทางสิทธิมนุษยชนและแรงงาน อาจนำไปสู่ความเสี่ยงในการทำธุรกิจร่วมกับบริษัท
  • การยกเลิกหรือระงับความร่วมมือ
ชุมชนและสังคม
ผลประโยชน์ที่ได้รับ
  • ได้รับการสนับสนุนและเคารพสิทธิขั้นพื้นฐาน
  • เกิดการสร้างงานและพัฒนาคุณภาพชีวิตในท้องถิ่น
  • มีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
  • หากเกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ดำเนินงาน อาจสร้างความขัดแย้งกับชุมชน
  • ภาพลักษณ์องค์กรเสียหาย
หน่วยงานภาครัฐและอื่นๆ
ผลประโยชน์ที่ได้รับ
  • ได้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานและสิทธิมนุษยชน
  • สนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง
  • ลดความขัดแย้งและปัญหาการฟ้องร้อง
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
  • หากบริษัทไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย อาจถูกลงโทษทางกฎหมายหรือถูกตรวจสอบเข้มงวด
  • ความสัมพันธ์กับหน่วยงานรัฐเสื่อมถอย
พนักงาน
ผลประโยชน์ที่ได้รับ
  • ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ
  • สภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและเป็นมิตร มีสุขอนามัยและสุขภาพจิตในการทำงานที่ดี
  • โอกาสพัฒนาศักยภาพและความก้าวหน้าในอาชีพ
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
  • หากเกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น แรงงานบังคับ การเลือกปฏิบัติ การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล จะกระทบต่อขวัญกำลังใจและประสิทธิภาพในการทำงาน
  • อัตราการลาออกสูงขึ้น